หน้าแรก
ลงประกาศใหม่
คู่มือการใช้งาน
หน้าแรก
อุปกรณ์เครื่องดนตรี
กระเดื่องกลอง
(16)
กระเดื่องคู๋
(13)
กระเป๋า UKULELE
(8)
ตลับเก็บปิคกีต้าร์
(1)
ตู้แอมป์กีตาร์
(631)
ตู้แอมป์เบส
(706)
ปิ๊คกีตาร์
(5)
มิกเซอร์
(656)
สายกีตาร์
(21)
สายสะพายกีตาร์
(14)
สายสัญญาณ
(22)
อุปกรณ์เบส
(9)
เครื่องตั้งสายกีต้าร์ และเบส
(17)
เอฟเฟ็คกีตาร์
(754)
แฉ
(8)
แฉฉาบ
(66)
ไทรแองเกิล หรือ กิ๋ง
(2)
ไม้กลอง
(18)
เครื่องดนตรีคลาสสิค
กรับสเปน
(0)
กลองทิมปานี
(1)
กล็อคเคนสปิล
(0)
คลาริเน็ต
(27)
คลาวิคอร์ด
(0)
คองกา
(0)
คอร์เน็ต
(3)
คาบาซา
(0)
ซูซาโฟน
(0)
ดับเบิ้ลเบส
(0)
ทรอมโบน
(29)
ทรัมเป็ต
(79)
ทูบา
(1)
บาริโทน
(3)
บาริโทนแซกโซโฟน
(0)
บาสซูน
(0)
บิคโคโล
(2)
บิวเกิล
(0)
ฟลุ๊ท
(94)
ฟลูเกิลฮอร์น
(1)
มาริมบา
(1)
ยูโฟเนียม
(4)
ระฆังราว
(1)
รีคอร์เดอร์
(0)
ลูท
(0)
วิโอลา
(1)
ออร์แกน
(1)
อัลโตแซกโซโพน
(36)
ฮอร์น
(2)
ฮาร์พ
(2)
ฮาร์พซิคอร์ด
(0)
เชลโล
(8)
เทนเนอร์แซกโซโฟน
(7)
เบสคลาริเน็ต
(0)
เปียโน
(118)
เปียโนไฟฟ้า
(128)
เฟรนช์ฮอร์น
(2)
เมโลเดียน
(1)
แซ็กโซโฟน
(56)
แบนโจ
(1)
แมนโดลิน
(1)
แอคคอร์เดียน
(6)
โซบราโนแซกโซโฟน
(8)
โอโบ
(0)
ไซโลโฟน
(2)
ไลร์
(1)
ไวบราโฟน
(0)
ไวโอลิน
(117)
เครื่องดนตรีสากล
KAZOO
(16)
กลองชุด
(587)
กลองแต็ก
(23)
กลองใหญ่
(38)
กีตาร์เบส
(348)
กีตาร์โปร่งคลาสสิค
(68)
กีตาร์โปร่งธรรมดา
(226)
กีตาร์โปร่งไฟฟ้า
(197)
กีตาร์ไฟฟ้า
(597)
คาวเบลล์
(1)
คาฮอง
(47)
คีย์บอร์ด
(673)
ซินเธไซเซอร์
(55)
บองโก
(3)
มาราคัส
(1)
อิงลิชฮอร์น
(0)
อิเล็คโทน
(124)
อูคูเลเล่
(142)
แทมบูริน
(2)
ไฮแฮท
(4)
เครื่องดนตรีไทย
กระจับปี่
(1)
กรับ
(1)
กลอง
(2)
ขลุ่ย
(3)
ขิม
(41)
ฆ้องวง
(3)
จะเข้
(7)
ฉาบ
(0)
ฉิ่ง
(2)
ซอด้วง
(3)
ซอสามสาย
(2)
ซออู้
(5)
ซึง
(0)
ตะโพน
(0)
ปี่
(1)
พิณ
(5)
ระนาด
(24)
แคน
(0)
โทน
(2)
โหม่ง
(0)
เครื่องเสียง
หูฟังเครื่องขยายหูฟัง
(98)
อุปกรณ์ไมค์
(22)
ไมค์ห้องอัด
(105)
ไมค์เครื่องดนตรี
(58)
ไมค์โครโฟน
(199)
บทความ
หน้าแรก
บทความ
สาระน่ารู้
สาระน่ารู้: การเลือกซื้อกีตาร์
เขียน โดย admin วันที Nov 30, 2012 - 06:39 AM
สมัยหนึ่งถ้ามีใครถามผมว่า จะหัดเล่นกีตาร์ จะเลือกซื้อกีตาร์อย่างไรดี สมัยนั้นผมจะตอบว่า ซื้อกีตาร์ถูกๆ เอาไปหัดเล่นก่อน เพราะกลัวว่าถ้าเกิดเปลี่ยนใจอยากเล่นเอาหล่ออย่างเดียวขี้นมา เสียดายเงิน แต่ถ้าเป็นวินาทีนี้ ผมจะแนะนำว่า ไปขอยืมกีตาร์ชาวบ้าน ให้เขาสอนจนเล่นได้ระดับนึงก่อนค่อไปซื้อ และไม่ควรเลือกซื้อกีตาร์ราคาถูกครับ เพราะอะไร ไปดูกัน
ของใช้ ไม่ใช่ของโชว์ กีตาร์ไม่ใช่น้ำเต้าหู้ จะได้ซื้อวันนี้แล้วพรุ่งนี้บูด กีตาร์ราคาถูกสมัยนี้ มีตั้งแต่ไม่กีร้อยบาท ถึงหลักพัน ถ้าคิดจะเล่นแล้วจะเสียดายอะไร แดกเหล้า เลี้ยงสาวคืนนึงๆ สองพันสามพันยังไม่เสียดาย กะอีแค่เพิ่มเงินอีหน่อยได้ของดีมาใช้ แบบไหนคุ้มกว่ากัน
กีตาร์ราคาถูก คุณภาพก็จะต่ำตามราคาลงไปด้วย อันนี้เรื่องจริง กีตาร์ราคาถูกยอดนิยมครองใจวัยรุ่นหัดเล่นกีตาร์มาหลายยุคหลายสมัยคือ JOJO ตามด้วย FUJIYAMA กีตาร์สองยี่ห้อนี้เป็นกีตาร์คุณภาพต่ำครับ ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะซื้อมาหัดเล่น
เมื่อคุณภาพต่ำ ทำให้เป็นอุปสรรคในการหัดเล่น กีตาร์คุณภาพต่ำไม่ได้หมายความว่าจะซื้อมาใช้แค่สองสามเดือนแล้วมันจะพังนะครับ คุณภาพต่ำในที่นี้หมายถึงคุณภาพเสียง และอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตกีตาร์ เช่น กีตาร์ยี่ห้อโจโจ้ กีตาร์ยี่ห้อนี้คอใหญ่มาก ไม่รู้ว่าไอ้คนผลิตมันเป็นนักกล้ามรึไง ถึงได้ทำคอกีตาร์ออกมาใหญ่โตปานนี้ เมื่อคอกีตาร์ใหญ่ การวางนิ้วก็จะลำบากครับ ทำให้ไม่สามารถจับคอร์ดยากๆ ได้
กีตาร์ที่คุณภาพสูง หรือปานกลาง จะมีระดับทัชชิ่ง (ความสูงระหว่างสายกีตาร์กับฟิงเกอร์บอร์ด) ที่พอเหมาะมาให้อยู่แล้ว จึงทำให้ผู้หัดเล่นไม่จำเป็นต้องปรับทัชชิ่งเองโดยที่ไม่มีความรู้ (เสี่ยงต่อกกีตาร์มาก เดี๋ยวจะพังเอาซะ) และยังไม่ต้องทนเจ็บนี้วอีกด้วย เคยเห็นกีตาร์เก่าๆบางตัวไหมครับ ที่มันจะมีกระดาษรองตามนัท (นัทคือสะพานรองสายอยู่ตรงบอดี้หนึ่งอัน และปลายฟิงเกอร์บอร์ดหนึ่งอัน) กระดาษนั่นเกิดมาจาก หนึ่งการที่เจ้าของกีตาร์โดนสตีฟ วาย ไม่ก็จิมมี เฮนดริก เข้าสิง เล่นโซโลเป็นไฟ จนทำให้นัทสึกจึงต้องเอากระดาษมารอง สองการที่เจ้าของกีตาร์ทดลองปรับทัชชิ่งโดยไม่มีความรู้และความชำนาญ โดยการถอดนัท มาฝนกับกระดาษทราย เพื่อให้ระดับความสูงของทัชชิ่งลดลง แต่บังเอิญฝนมากไปหน่อยเสือกต่ำเกินไป เลยต้องหากระดาษมารอง จะซื้อใหม่ก็ไม่มีตังค์ ลำพังกีตาร์ตัวนี้ยังกระอักเลือด
กีตาร์ที่คุณภาพสูง หรือปานกลาง จะมีระดับทัชชิ่ง (ความสูงระหว่างสายกีตาร์กับฟิงเกอร์บอร์ด) ที่พอเหมาะมาให้อยู่แล้ว จึงทำให้ผู้หัดเล่นไม่จำเป็นต้องปรับทัชชิ่งเองโดยที่ไม่มีความรู้ (เสี่ยงต่อกกีตาร์มาก เดี๋ยวจะพังเอาซะ) และยังไม่ต้องทนเจ็บนี้วอีกด้วย เคยเห็นกีตาร์เก่าๆบางตัวไหมครับ ที่มันจะมีกระดาษรองตามนัท (นัทคือสะพานรองสายอยู่ตรงบอดี้หนึ่งอัน และปลายฟิงเกอร์บอร์ดหนึ่งอัน) กระดาษนั่นเกิดมาจาก หนึ่งการที่เจ้าของกีตาร์โดนสตีฟ วาย ไม่ก็จิมมี เฮนดริก เข้าสิง เล่นโซโลเป็นไฟ จนทำให้นัทสึกจึงต้องเอากระดาษมารอง สองการที่เจ้าของกีตาร์ทดลองปรับทัชชิ่งโดยไม่มีความรู้และความชำนาญ โดยการถอดนัท มาฝนกับกระดาษทราย เพื่อให้ระดับความสูงของทัชชิ่งลดลง แต่บังเอิญฝนมากไปหน่อยเสือกต่ำเกินไป เลยต้องหากระดาษมารอง จะซื้อใหม่ก็ไม่มีตังค์ ลำพังกีตาร์ตัวนี้ยังกระอักเลือด
Print